ปัจจุบันจักรยานไฟฟ้าได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริโภค การขนส่งรถจักรยานด้วยไฟฟ้ามีเพิ่มมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วอายุของจักรยานไฟฟ้าสามารถใช้ได้นานนับสิบปี ผู้บริโภคบางคนสามารถใช้รถจักรยานไฟฟ้าได้สามหรือสี่ปีโดยที่จักรยานไฟฟ้ายังคงอยู่ในสภาพที่ดีและแบตเตอรี่ยังอยู่ในสภาพดี สภาพภายนอกสวยงามและการใช้งานเหมือนจักรยานคันใหม่ แต่ผู้บริโภคบางคนใช้จักรยานไฟฟ้าได้น้อยกว่าหนึ่งปีชีวิตของจักรยานไฟฟ้าก็เริ่มลดลงและเริ่มมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ . หากคุณดูและรักษาดีโดยใช้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็สามารถที่จะจะช่วยยืดอายุของรถของคุณให้ได้ยาวนาน
1. การออกแบบรถจักรยานไฟฟ้ามาตรฐานของการโหลด 75 กก. เมื่อโหลดหนักมากเกินกำหนด แบตเตอรี่และมอเตอร์จะทำงานหนักและอาจได้รับความเสียหายเร็วขึ้น
2. แบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้าเมื่อเก็บรักษาจะต้องชาร์จอย่างน้อยเดือนละครั้ง และหลังจากใช้งานขี่แล้วแบตเตอรี่จะต้องมีการชาร์จให้เต็มมิฉะนั้นก็จะส่งผลกระทบต่ออายุของแบตเตอรี่สั้นลง
3. เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดรถจักรยานไฟฟ้าจะปิดระบบการทำงานโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่หลังจากที่ระบบตัดการทำงานแบตเตอรี่จะปรากฏเหมือนแบตเตอรี่มีการฟื้นตัวมีแรงดันเสมือน (จากพลังงานปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้า) จำเป็นจะต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่ก่อนเก็บและก่อนนำไปใช้งาน มิฉะนั้นจะทำให้เซลแบตเตอรี่ของรถจักรยานไฟฟ้าแบตเตอรี่เสียหายจะไม่สามารถแก้ไขได้
4. ผลกระทบต่อระยะทางจริงที่วิ่งได้ของจักรยานมีปัจจัยหลายอย่าง (เช่น การใช้เบรกบ่อยแค่ไหน ความขรุขระของพื้นผิวถนน อุณหภูมิต่ำเกินไป เนินสูงชัน ความเร็ว ปริมาณลมยาง ภาระการบรรทุกที่มากเกินไป)
5. สังเกตไฟแสดงระดับแบตเตอรี่ด้านหน้าของรถจักรยานไฟฟ้า เมื่อเปิดสวิทช์จักรยานไฟฟ้าสามารถขี่ได้ สัญญาณระดับแบตเตอรี่มีสามสี สีแดงของ สีเหลือง และสีเขียว สีเขียวหมายถึงจักรยานไฟฟ้าพร้อมในการใช้งาน สีเหลืองหมายถึงแบตเตอรี่ใกล้หมดในระยะเวลาอีกไม่นาน และสีแดงคือแบตเตอรี่หมดแล้ว เมื่อสัญญาณขึ้นสีเหลือง ควรจะหยุดขี่และการชาร์จแบตเตอรี่โดยเร็วที่สุด
6. ควรจะเร่งความเร็วช้าๆ จาก 0 ~ 20 กม./ ชั่วโมง โดยใช้เวลาเร่งรถจักรยานไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 10 วินาที เพื่อให้การขับขี่นิ่มนวล ความเร็วที่ประหยัดแบตเตอรี่ (ใช้พลังงานน้อยที่สุดด้วยความเร็วมากที่สุด) มากที่สุดอยู่ในช่วง 16 ~ 18 กม./ ชั่วโมง จะมีระยะทางช่วงเบรกประมาณ 4 เมตร แต่เมื่อฝนตกระยะเบรคจะเพิ่มอีก
7. ควรตรวจความดันลมยางให้มีปริมาณที่เหมาะสม ความดันลมที่ต่ำไปจะทำให้ขอบล้ออลูมิเนียมกดกับยางใน ทำให้ยางในรั่วได้
8. พยายามที่จะป้องกันไม่ให้จักรยานมอเตอร์ไฟฟ้าหยุดหมุนเช่น รถตกหลุม หรือขึ้นเนินสูงมากไป ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ให้คนขี่ลุกขึ้นมาก่อน แล้วเข็นให้ผ่านอุปสรรคไป เพื่อหลีกเลี่ยงการให้มอเตอร์หยุดหมุนจะส่งผลกระทบต่อกระแสไฟฟ้าเกินความสามารถของแบตเตอรี่มอเตอร์
9. การขี่จักรยานในสายฝนควรมั่นใจว่าจักรยานไฟฟ้าคันนั้นมีการป้องกันชุดควบคุมมอเตอร์อย่างดี เพราะน้ำอาจทำให้เกิดความเสียหายลัดวงจร การล้างรถควรระมัดระวังไม่ควรใช้สายยางฉีดเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆโดยตรง
10. ไต้สะพานชันมาก วิ่งความเร็วลม แบตเตอรี่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าสูง จะมีผลต่ออายุของมอเตอร์และแบตเตอรี่ หากปั่นช่วยจะช่วยถนอมการใช้งานแบตเตอรี่

บทความนี้สงวนสิทธิ์ จาก eBikr.com ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่เชิงพาณิชย์ก่อนได้รับอนุญาติ

จักรยานไฟฟ้าเทลจี

จักรยานไฟฟ้าฮอนด้า