การพิจารณาเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า คุณจะเลือกที่อะไร ราคาVSคุณภาพ

ในปัจจุบัน มีจักรยานไฟฟ้าในท้องตลาดให้เลือกอย่างหลากหลายท่านสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการของท่าน บางท่านต้องการปั่นออกกำลังกาย บางท่านต้องการใช้งาน ขนของ ส่งลูกไปโรงเรียน ไปตลาด ความเชื่อถือได้ของสินค้าเริ่มจากแบรนด์ คุณภาพสินค้า บริการหลังการขาย แต่นั้นเพียงพอแล้วหรือยัง?
เพื่อให้แน่ใจว่าจักรยานไฟฟ้าจะอยู่กับท่านไปนานๆและคุ้มกับเงินที่เสียไป จะรู้ได้อย่างไรละ ว่าจักรยานไฟฟ้าจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่ ลองพิจารณาดังต่อไปนี้

ด้านตัวจักรยาน
เฟรมตัวถัง สิ่งที่ท่านต้องพิจารณาคือวัสดุ รูปแบบและรอยเชื่อม วัสดุมีมากมาย เหล็ก อลูมิเนียม อัลลอยล์ ไฟเบอร์ ถ้าเป็นรถใช้งานหนัก วัสดุควรเป็นเหล็กเกรดดีมาตรฐาน คานหน้าหลักของตัวถังจักรยานควรมีความแข็งแรงทนทาร ถ้าเป็นรถใช้งานปั่นออกกำลังกาย ควรเป็นอัลลอยล์น้ำหนักเบาหรือวัสดุที่ดีกว่า จักรยานราคาถูกมักใช้เหล็กบางทำให้การรับน้ำหนักไม่ได้มาก การเผื่อเพื่อความปลอดภัยต่ำ (safety factor ต่ำ) ตัวถังอาจงอเสียหายได้

รอยเชื่อม รอยเชื่อมเป็นส่วนที่สำคัญในการทำให้เหล็กสองชิ้นติดกัน รอยเชื่อมเกล็ดปลาเป็นตัวบอกฝีมือของช่างเชื่อม ถ้ารอยเชื่อมสม่ำเสมอการเชื่อมจะยากมาก ต้องเป็นช่างเชื่อมฝีมือ หรือไม่ก็ใช้หุ่นยนต์ช่วยในการเชื่อม รอยเชื่อมจะมีมาตรฐานในการทดสอบว่าเหล็กสองชิ้นมีการติดกันอย่างสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตกร้าวจากการเชื่อม มีการประสานกันอย่างดี จักรยานราคาถูกมักจะไม่มีมาตรฐานการทดสอบคือแค่เชื่อมให้ติดกัน

รอยเชื่อมที่สวยงาม อ้างอิง http://www.whipsmartfab.com

รอยเชื่อมที่สวยงาม อ้างอิง http://www.whipsmartfab.com

วัสดุพลาสติก วัสดุพลาสติกควรเป็น ABS หรือพลาสติกประเภทเดียวกับที่ใช้กับมอเตอร์ไซค์ มีความทนต่อแสงอุลตร้าไวโอเลท แสงอุลตร้าไวโอเลทจะทำให้การเชื่อมต่อโมเลกุลของพลาสติกคุณภาพต่ำเสื่อมสลายลงได้ ทำให้จักรยานที่ใช้พลาสติกคุณภาพต่ำ จะกรอบและแตกหักในเวลา 2-3 ปี ขึ้นไป จักรยานไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หากพลาสติกกรอบแตกหักจะทำให้ความสวยงามหายไปทันที การยึดอุปกรณ์ต่างๆก็จะยึดไม่ได้

สี สีแห้งช้าเป็นสีที่นิยมใช้กันมาก สีเมททัลลิกหรือสีมุก เมื่อสะท้อนแล้วจะเป็นประกายเล็กๆในเนื้อสีจะเกิดความเงาสวยงาม สีคุณภาพต่ำเมื่อใช้ไปนานๆโดนแดดสีจะซีด แต่ถ้าเป็นสีคุณภาพดี จะใช้ได้นานมากโดยสีไม่ซีดเลยหากมีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง สีในอุตสาหกรรมที่ดีจะมีการทดสอบการเกาะของสีกับโลหะและความคงทนต่อความเค็มในสภาพการใช้งาน จักรยานราคาถูกแทบไม่มีการทดสอบทางด้านสีเลย

มอเตอร์ มอเตอร์ที่นิยมใช้กันมีแบบไร้แรงถ่าน (brushless motor) และมอเตอร์แบบมีแปรงถ่าน (brushed motor) มอเตอร์แบบมีแปรงถ่าน เป็นมอเตอร์แบบเทคโนโลยีเก่า ที่ใช้กันมาร่วมร้อยปีแล้ว ใช้แปรงถ่านที่ทำจากแท่งคาร์บอนเป็นสะพานไฟไจากแปรงถ่านไปยังคอมมิวเตเตอร์ของและไปยังขดลวดของมอเตอร์ เมื่อมอเตอร์หมุนจะเกิดไฟสปาร์คขึ้นที่แปรงถ่าน และแปรงถ่านจะค่อยๆสึกหรอกไปเรื่อยๆ เมื่อใช้ไปถึงอายุการใช้งานต้องเปลี่ยนแปรงถ่านและคอมมิวเตเตอร์ จักรยานไฟฟ้าราคาถูกจะใช้มอเตอร์แบบปรงถ่าน ส่วนจักรยานที่คุณภาพดีจะใช้มอเตอร์ไร้แปรงถ่าน (brushless motor) มอเตอร์ประเภทนี้ประสิทธิภาพสูงถึง 80-90% หมายความว่าจ่ายไฟฟ้าเข้าไปร้อยเปอร์เซ็นต์ได้แรงบิดออกมา 80-90% มอเตอร์แบบแปรงถ่านประสิทธิภาพเพียง 60-70% พลังงานบางส่วนสูญเสียไปกับความร้อนและการเสียดสีของแปรงถ่านกับคอมมิวเตเตอร์

แบตเตอรี่ แบตเตอรี่เป็นหัวใจของรถไฟฟ้า แบตเตอรี่ที่นิยมใช้กับจักรยานไฟฟ้าในปัจจุบันมีแบตเตอรี่ตะกัวกรด (Seal Lead Acid: SLA) กับแบตเตอรี่ลิเทียม แบตเตอรี่ตะกั่วกรดมีหลายคุณภาพหลายราคา แบตแบบใช้กับเครื่องสำรองไฟราคาไม่แพง แต่หากนำมาใช้กับจักรยานไฟฟ้าจำทำให้อายุการใช้งานของแบตสั้น และแบตแบบ deep cycle หรือแบตสำหรับการจ่ายไฟแช่ต่อเนื่อง ถูกออกแบบมาให้ใช้กับจักรยานไฟฟ้าโดยเฉพาะ อายุการใช้งานอยู่ที่ 1-2 ปี ขึ้นกับการดูแลรักษา แบตอีกประเภทคือแบตลิเทียม คุณภาพของแบตมีหลากหลายมากตามต้นทุนในการผลิต แบตลิเทียมจ่ายไฟได้ดีแต่ราคาสูงกว่าแบตตะกั่วกรด

สายไฟและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สายไฟควรมีปริมาณทองแดงให้เหมาะสม ใช้ฉนวนเปลือกคุณภาพดี จักรยานราคถูกใช้สายไฟคุณภาพต่ำ เมื่อใช้ไปนานๆสายไฟจะกรอบ อุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์คุณภาพต่ำจะทำให้มอเตอร์จักรยานไม่วิ่งได้

อุปกรณ์เสริมของจักรยาน เช่น เกียร์ เบรค โช๊ค อุปกรณ์พวกนี้จะติดตั้งกับจักรยานไฟฟ้าแบบเน้นปั่น คุณภาพของชิ้นงานทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานดีขึ้นและมีความเชื่อถือได้

ด้านมาตรฐาน
มาตรฐานการผลิต จักรยานไฟฟ้าที่ดีจะมีการตรวจสอบความสม่ำเสมอในการผลิต เมื่อผลิตมาแล้วต้องเหมือนกันทุกคัน ในขั้นตอนเดียวกัน จักรยานคุณภาพต่ำคุณภาพจะแตกต่างกัน

มาตรฐานการทดสอบ จักรยานคุณภาพดีจะมีการทดสอบการทนทานของชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่เสียง่าย ในทางตรงข้ามจั กรยานคุณภาพต่ำไม่มีการทดสอบการทนทานของชิ้นส่วนต่างๆ การเสียจะเป็นไปตามบุญตามกรรมของคนซื้อและคนขาย

มาตรฐานผลิตภัณฑ์ อย่างน้อยจักรยานที่ผลิตขึ้นควรผ่านการทดสอบ ของประเทศใดประเทศหนึ่งในการนำมาใช้งาน เพื่อให้แน่ใจถึงความคงทนของตัวจักรยานในการใช้งาน ที่ผ่านการทดสอบจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น ประเทศไทยคือ มอก ประเทศจีนคือ CCC (China Compulsory Certification)

ด้านการบริการหลังการขาย
การบริการหลังการขาย เครื่องมือ อุปกรณ์ สถานที่ เป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่สิ่งที่สำคัญสุดคือช่างและอะไหล่ ช่างที่มีฝีมือเปรียบเสมือนหมอรักษาโรค ก็รักษาให้โรคหายขาดได้ แต่ช่างที่ฝีมือน้อย เหมือนหมอที่วางยา หรือรักษาไม่หายนั้นเอง ยิ่งช่างที่เก่งจะช่วยซ่อมจักรยานไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของท่านให้เหมือนปกติได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อน เบรค สีและตัวถัง

อะไหล่ อะไหล่ที่ดีควรเป็นอะไหล่แท้ที่มีคุณภาพทัดเทียมหรือดีกว่าอะไหล่ที่ออกมาจากโรงงาน

เมื่อท่านอ่านเช่นนี้แล้วคงพอมองเห็นภาพว่าทำไมจักรยานไฟฟ้าจึงมีราคาแตกต่างกันมาก ซึ่งก็ส่งผลให้คุณภาพแตกต่างกันเช่นกัน ความเชื่อถือได้ก็แตกต่างกันอีกด้วย แต่ทั้งนี้การตัดสินใจเลือกซื้อยังเกี่ยวข้องกับงบประมาณและความพึงพอใจอีกด้วย จริงๆแล้วยังมีอีกประเด็นที่สำคัญคือ เรื่องของภาษี จักรยานไฟฟ้าในปัจจุบันภาษีนำเข้าค่อนข้างสูง และมีซ้ำซ้อนหลายจุด เนื่องจากยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากทางภาครัฐ หากภาษีที่ต่ำลงกว่านี้จะทำให้ผู้บริโภาคได้ใช้จักรยานไฟฟ้าคุณภาพดีและราคาถูกลงกว่านี้

สงวนสิทธิ์ ใช้เพื่ออ่านประกอบความรู้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก eBikr.com

อ้างอิงรูป

http://www.whipsmartfab.com