การเติมพลังงานในอนาคตกับรถไฟฟ้า

เมื่อเวลามาถึงรถไฟฟ้าก็จะมีใช้ในเมือง Peoria แต่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างในการเติมไฟฟ้าใหม่แทนปั๊มน้ำมันในปัจจุบัน

บ้านที่ใช้พาหนะไฟฟ้าสามารถชาร์จได้ที่บ้าน ที่ทำงานและสถานีชาร์จแบตตามท้องถนน ส่วนคนใช้น้ำมันก็ยังใช้ต่อไปเพราะความสะดวกและไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร พลังงานไฟฟ้าได้จากแสงอาทิตย์ และกังหันลมจะมีมากขึ้น

ในอนาคตรถพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ รถพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กจะวิ่งไปบนท้องถนนมากขึ้น ไม่มีควันไอเสีย การนำเข้าน้ำมันและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะหมดไป สม็อก(หมอก+ควันพิษ)จะลดลง วิสัยทัศน์ในอนาคตของผู้คนทั่วไปจะเป็นจริงได้ แต่มีปัญหาทางด้านโลจิสติกส์ที่จะต้องแก้ไขก่อน นั่นคือว่ารถยนต์ชนิดใหม่จะเสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่ที่ไหน

ในปี 2010 และ 2012 ผู้ผลิตรถยนต์วางแผนในการผลิตรถหลายแบบที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จใหม่ได้ เหมือนกับรถเชฟวี่รุ่น โวลท์ ที่สามารถวิ่งได้ 64 กม/การชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้เวลา 8 ชั่วโมงและแรงดันไฟฟ้าตามปลั๊กไฟบ้านขนาด 110 โวลท์ รถบางรุ่นถูกออกแบบแบตเตอรี่พิเศษวิ่งได้ไกลถึง 160 กม. ถึง 320 กม. ที่ใช้เวลาในการชาร์จ 10-12 ชั่วโมง ถ้าใช้ไฟบ้านขนาด 220 โวลท์ ระยะเวลาในการชาร์จจะลดลงครึ่งหนึ่ง (เหมือนอย่างบ้านเรา) และส่วนมากจะชาร์จกันในเวลากลางคืน ที่มีค่าไฟค่อนข้างต่ำ คนส่วนมากจะชาร์จไฟฟ้าเมื่อมีโครงข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้า ตามอพาร์ทเม้นท์อยู่พักอาศัย คนเดินทางก็ชาร์จที่ทำงาน และสามารถชาร์จตามสถานีตามท้องถนน คุณอาร์ท เจมส์ แห่งกรมขนส่งเมืองโอเรกอน กล่าวว่า คุณยังไม่จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานมากมายหรอกในตอนเริ่มต้น ชาร์จที่บ้านก็ได้ แต่คุณแทบจะไม่มีรถไฟฟ้าวิ่งมากถ้าคุณไม่มีสถานีเติมไฟฟ้า

สถานีเติมพลังงานไฟฟ้าสำหรับเพิ่มมากขึ้นบนโลกใบนี้ โดยเฉพาะประเทศที่รัฐบาลสนับสนุน เช่นในอิสราเอล ประเทศที่มีน้ำมันแพงและระยะทางในการเดินทางสั้นๆ บริษัทแห่งหนึ่งในแคลิฟอเนียร์ชื่อ เบตเตอร์เพลส สร้างสถานีชาร์จไฟฟ้ากว่าหนึ่งพันแห่งแล้วในประเทศอเมริกา ตามแผนของบริษัทเป็นเจ้าของและมีระบบติดตามการใช้แบตเตอรี่ลิเทียม ที่มีราคาสูงให้บริการกับสมาชิกที่สมัครและจ่ายเงินสำหรับค่าการรีชาร์จไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ทำให้ราคารถในตอนซื้อครั้งแรกลดลงหนึ่งสามหรือมากกว่า แต่ลูกค้าจะต้องซื้อรถจากผู้ผลิตที่มีข้อตกลงใช้แบตเตอรี่มาตรฐานของบริษัทเบตตอร์เพลส ตอนนี้มีสองบริษัทคือ เรโนล์ดและนิสสัน สำหรับในการขับขื่ทางไกล เบตเตอร์เพลสเตรียมหุ่นยนต์สำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีและกระบวนการเสร็จในเวลาไม่กี่นาที

การเปรียบเทียบความประหยัดจากการใช้เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันกับยานพาหนะไฟฟ้า

อีกวิธีการหนึ่งคือ การเติมพลังงานไฟฟ้าในอนาคตก็เหมือนเติมน้ำมันปัจจุบันนะแหละ ก็ขับไปเติมชาร์จแบตในสถานีชาร์จแบตปกติเลย ในการใช้เทคโนโลยีคูลอมป์ เป็นอีกบริษัทในแคลิฟอเนียร์ที่เพิ่งเกิดขึ้นอ้างว่าสามารถชาร์จแบตโดยใช้เวลาน้อย ใช้แรงดันในการชาร์จ 480 โวลท์ และใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น ก็พอๆกับจอดพักผ่อน ในจำนวนสถานีเติมพลังงานกว่า 11700 สถานี มีจุดเติมพลังงานไฟฟ้า 500 สถานี ส่วนใหญ่ยังไม่เปิดเป็นสาธารณะ การเปลี่ยนมาเป็นใช้รถไฟฟ้าของโลกยังพัฒนาต่อไป เนื่องจากค่าน้ำมันแพงมากขึ้นและปรากฎการณ์โลกร้อนจะทำให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น

อ้างอิง: National Geographic ฉบับเดือนพฤศจิกายน ปี 2009