ลิขสิทธิ์บทความนี้เป็นของ ebikr.com ห้ามนำไปเผยแพร่ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
จักรยานเสือภูเขา Mountain bike หรือ บางคนเรียกว่า all terrain bike เป็นจักรยานที่สามารถนำไปปั่นที่ไหนๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะทางเรียบ ทางขรุขระ ทางเป็นหลุมบ่อ บางคันอาจมีแค่โช๊คหน้า บางคันอาจมีแค่โช๊คหลัง หรือบางคันอาจมีทั้งโช๊คหน้าและหลัง เพื่อการขับขี่ที่สมบุกสมบัน ยางจะมีหน้ากว้าง จักรยานเสือภูเขามีหลายแบบเช่น ครอสคันทรี่ (cross country) ฟรีไรด์ (Free ride) ดาวน์ฮิว (down hill) ล้อจักรยานไฟฟ้าเสือภูเขามาตรฐานจะอยู่ที่ 26” แต่ก็อาจมีขนาดอื่นๆแล้วแต่การออกแบบ
เลือกชุดติดตั้งที่เหมาะสม
คุณสามารถ เลือกขนาดชุดติดตั้งจักรยานไฟฟ้าและดัดแปลงจักรยานเสือภูเขาของคุณให้เป็น จักรยานเสือภูเขาไฟฟ้า โดยมีชุดติดตั้งจักรยานไฟฟ้าให้เลือกได้ทั้งสามรุ่น ดังต่อไปนี้
prokit 902 กำลังอยู่ที่ 250W ที่ 36V น้ำหนักดุมมอเตอร์รวมขอบล้อ 3.5 kg เมื่อติดตั้งแล้วจะเนียน ดูไม่ค่อยออก เพราะดุมล้อมอเตอร์ดูไม่แตกต่างจากดุมล้อจักรยานทั่วไปเท่าไรนัก มอเตอร์กินไฟต่ำ ความเร็วสูงสุดประมาณ 30km/hr สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลๆ ได้ ถ้ากลัวเอาเปรียบเพื่อนๆมากก็ติดตั้งชุดช่วยปั่น (Ped elec) ติดตั้งแล้วมอเตอร์จะไม่หมุน จนกว่าขาจะปั่นจะเพิ่มความไกลได้อีก แบตขนาด 36V 12AH อาจไปไกลกว่า 100 km ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
magic pie 3 กำลังอยู่ที่ 1000W ที่ 48V และ 750W ที่ 36V มอเตอร์ปรับแรงดันไฟฟ้าได้ตามแบตเตอร์รี่ที่เราจะเลือกใช้ น้ำหนักดุมมอเตอร์รวมขอบล้อ 8.5 kg เมื่อติดตั้งแล้วจะเหมือนจักรยานติดล้อแม๊กซ์ กำลังสูง ความเร็วสูง ความเร็วสูงสุดที่แบตเตอร์รี่ขนาด 48V 10AH ได้ถึง 50km/hr วิ่งได้ระยะทางไกล 50km ความเร็วสูงสุดที่แบตเตอร์รี่ขนาด 36V 12AH ได้ถึง 40km/hr วิ่งได้ระยะทางไกล 40km ต่อการชาร์จแบตเตอร์รี่หนึ่งครั้ง สามารถวิ่งขึ้นเขา สะพาน เนินสูงได้ดีมาก ติดตั้งชุดช่วยปั่น (Ped elec) ได้ ชุดควบคุมอยู่ภายในดุมล้อเลย ติดตั้งง่าย มีระบบปั่นไฟกลับเข้าแบตเตอร์รี่เมื่อใช้เบรคเหมือนโตโยต้าพรีอุส
the smart pie 3 กำลังอยู่ที่ 400W ที่ 48V และ 300W ที่ 36V มอเตอร์ปรับแรงดันไฟฟ้าได้ น้ำหนักดุมมอเตอร์รวมขอบล้อ 4.5 kg เป็นการรวมเอาข้อดีของ prokit 902 และ magic pie 3 มารวมกัน ที่แบตเตอร์รี่ขนาด 48V 10AH ความเร็วสูงสุดได้ถึง 35km/hr วิ่งได้ระยะทางไกล 60km ต่อการชาร์จแบตเตอร์รี่หนึ่งครั้ง วิ่งในทางเรียบดี ชุดควบคุมอยู่ภายในดุมล้อเลย ติดตั้งง่าย มีระบบปั่นไฟกลับเข้าแบตเตอร์รี่เมื่อใช้เบรคเหมือนโตโยต้าพรี อุส
เลือกติดตั้งล้อหน้าหรือล้อหลังดี
ก่อนอื่นต้องเลือกขนาดขอบล้อก่อน ปกติ ล้อมาตรฐานอยู่ที่ 26” แต่ก็อาจมีได้หลายขนาดเช่น 24”, 26”, 28” 700C
ติดตั้งล้อหลัง
โดยปกติแล้ว ถ้าติดตั้งล้อหลังได้ น่าที่จะเลือกติดตั้งล้อหลัง เพราะล้อหลังมีตัวยึดที่เฟรมซึ่งมีความแข็งแรงมาก แต่มีข้อจำกัดว่า ชุดปรับเกียร์กับด้ามเบรก ควรจะแยกชุดกัน และชุด เสตอร์เกียร์ ควรอยู่ระหว่าง 7 ชั้น สูงสุดไม่ควรเกิน 8 ชั้น เพราะถ้าเกินกว่านี้ จะต้องใช้แหวนรองหลายตัว อาจมีปัญหาในเรื่องความแข็งแรงและความปลอดภัยได้ ถ้าหากติดตั้งแบตเตอร์รี่ไว้แร๊คหลัง น้ำหนักจักรยานจะถ่วงท้าย
ติดตั้งล้อหน้า
ถ้าชุดเกียร์ล้อหลังเป็น 3×10 เกียร์ การติดตั้งล้อหน้าอาจทำได้ง่ายกว่า การติดตั้งล้อหน้าจะง่ายกว่าล้อหลังมากๆ ขนาดแรงดันควรจะอยู่ที่ 36V แต่การออกตัว อาจจะมีล้อฟรีเล็กน้อย และต้องระวังในการเบรก อาจลื่นได้ ถ้าหากติดตั้งแบตเตอร์รี่ไว้แร๊คหลัง น้ำหนักจักรยานจะสมดุลย์
จักรยานขับเคลื่อนสองล้อ
ถ้าหากต้องการจักรยานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง สามารถติดตั้งมอเตอร์ได้ทั้งสองล้อ คือล้อหน้าและล้อหลัง การออกตัวแรงบิด อัตราการไต่เนินชันจะดีขึ้นอย่างมากๆ ถ้าหากติดตั้งแบตเตอร์รี่ไว้แร๊คหลัง น้ำหนักจักรยานจะสมดุล
ประโยชน์อีกอย่างของจักรยานไฟฟ้า ยังใช้เป็นจักรยานนำขบวน ในการแข่งจักรยานได้ มีข้อดีกว่าการใช้มอเตอร์ไซค์นำขบวน เพราะไม่มีควันท่อไอเสีย ผู้ปั่นตามเหนื่อยๆ ต้องการออกซิเจนมากกว่าคาร์บอนมอนนอคไซค์
ลิขสิทธิ์บทความนี้เป็นของ ebikr.com ห้ามนำไปเผยแพร่ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต