จักรยานไฟฟ้าวันนี้มีขนาดมอเตอร์ให้เลือกหลายขนาด เราจะเลือกกำลังของมอเตอร์อย่างไร ตามสเปคที่มีขายตามท้องตลาดหรือตามการใช้งาน
จักรยาน ไฟฟ้าสำเร็จรูปทั่วไปในท้องตลาดกำลังของมอเตอร์จะอยู่ที่ 250W ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 30 กม./ชม. ปกติคนแรงดีจะมีกำลังประมาณ 200W จะปั่นได้ความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. ในเวลา 1 ชม. คนที่ร่างกายสมบูรณ์ก็จะปั่นได้มากกว่าไกลกว่า อึดกว่า คนทั่วไป สามารถออกแรงเพิ่มได้อีก 40-60W ในช่วงเวลาสั้น คนทั่วไปที่ไม่ค่อยฟิตถ้ามาปั่นจักรยานราคาถูกจะปั่นได้ความเร็วประมาณ 10- 25 30 กม./ชม. แต่จะต้องไม่สวนลมและไม่มีทางชัน ถ้าคนทั่วไปปั่นจักรยานไฟฟ้าอาจไปได้ด้วยความเร็ว 30 กม./ชม. หรือความเร็วเป็นสองเท่าของการคนปั่นแบบธรรมดาและสามารถเพิ่มระยะทางการปั่น ได้
สำหรับคนฟิตๆ จะสนุกกับจักรยานไฟฟ้าได้ตรงที่มันไปได้ไกลกว่าและเร็วกว่า ในขณะที่คนธรรมดาอาจไม่ค่อยชอบความไกลและความเร็ว คนอีกกลุ่มชอบปั่นเร็วๆ แล้วเขาก็จะสนุกมากเมื่อได้ใช้จักรยานไฟฟ้าแทนการใช้รถในระยะทางสั้นๆ เพียงแค่ปั่นออกแรงเพียง 50 W ก็สามารถทำให้พอเคลื่อนที่ไปได้ช้าๆ ก็ยังดีกว่าการนั่งในรถเฉยๆออกแรง 0W หรือ ออกแรง 20,000 W ในการนำรถไปใช้งาน ทั้งๆที่เราสามารถใช้แรงจักรยานไฟฟ้า 200W ก็เพียงพอที่จะเคลื่อนที่ไปได้ สำหรับบางคนในตอนเริ่มแรกใช้แค่ 50W ก็อาจอยากเพิ่มอีก 75-100W หลังจากใช้งานจักรยานไปได้สักพัก
ตาราง ต่อไปนี้แสดงค่ากำลังเป็น วัตต์ของมอเตอร์ เปรียบเทียบกับความชันและวิ่งสวนลม ตารางต่อไปนี้แสดงความเร็วที่ 30 กม./ชม. คนปั่นมีน้ำหนัก 68 กก. มอเตอร์และแบตเตอร์รี่น้ำหนัก 13 กก.
ตัวอย่าง เช่นถ้าเป็นที่ทางราบ ความชันเป็น 0% มอเตอร์ใช้แรง 150W เมื่อรวมกับแรงคนปั่นด้วยก็สามารถวิ่งไปได้ความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. บนพื้นราบ แต่จะใช้กำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลถ้าวิ่งสวนลมและวิ่งขึ้นเนินชัน
อีก ตัวอย่างคือ ถ้าคุณซื้อจักรยานไฟฟ้าตามท้องตลาด ขนาด 250W คุณจะไม่สามารถวิ่งขึ้นเนินความชันมากกว่า 2% ด้วยความเร็ว 30 กม/ชม ได้นั้นคือต้องใช้ขาออกแรงมากขึ้นนั้นเอง
reference http://www.alysion.org/ebiketours/power.html
บทความนี้ขอสงวนสิทธิ์ใช้เพื่ออ่านประกอบความรู้เท่านั้น