1 ใช้เป็นเกจวัดระดับน้ำมัน พยากรณ์เวลาการใช้งานที่เหลือ
2 ใช้วัดความสามารถของแบตเตอร์รี่ และการวัดสภาพแบตเตอร์รี่ การตรวจสอบและเปรียบเทียบสเปค
3 ใช้เป็นตัวนับแอมป์อาวว์
4 ใช้วัดระดับแรงดันไฟฟ้าเช่น 12V, 24V, 36V,48V และระดับแรงดันของเซลแต่ละเซลของแบตเตอร์รี่
5 ป้องกันการเสียหายจากกระแสสูงสุดหรือกำลังสูงสุดจากการใช้งานเกินกำลังของแบตเตอร์รี่
ชาร์จเจอร์ ชุดควบคุมมอเตอร์และเครื่องมือวัดอื่นๆ
6 ตรวจสอบการชาร์จไฟ เปรียบเทียบค่าแบตเตอร์รี่สเปคเมื่อชาร์จเจอร์แจ้งว่าชาร์จเต้มแล้ว
7 วัดประสิทธิภาพของแบตเตอร์รี่ และประสิทธิภาพของอินเวอร์เตอร์
8 ไว้เซ็ทตัดค่าแรงดันและกระแส เพื่อป้องกันความเสียหายของมอเตอร์
9 เป็นตัวบอกค่าแรงดันต่ำสุดเพื่อใช้งาน
10 เพื่อให้แน่ใจว่ากระแส และกำลังเหมาะกับฟิวส์ มอเตอร์ การเดินสายและขั้วต่อต่างๆ
11 ตรวจสอบสเปค
12 ค้นหาปัญหาทางด้านไฟฟ้าและการใช้งานภาระเกิน
13 ตรวจสอบการเดินสายและการสูญเสียด้านไฟฟ้าทดแทนการใช้โวลท์มิเตอร์
และวัตต์มิเตอร์แบบธรรมดาแยกสองตัวเป็นวัตต์มิเตอร์ตัวเดียว
14 รู้ข้อมูลของแบตเตอร์รี่แบบตะกั่วกรด SLA, NiMH, NiCD, Lithium Ion และ Li-Poly
ที่มากกว่าโวลท์มิเตอร์หรือแอมป์มิเตอร์
15 วัดกำลังและพลังงานที่ใช้ของอุปกรณ์ไฟฟ้าดีซี
ตัวอย่างการต่อใช้งาน
เมื่อนำมาต่อใช้งานกับจักรยานไฟฟ้า สามารถต่อได้สามแบบ
รูปที่ 1 เป็นการต่อแบบสามสาย ทำให้ประหยัดการเดินสายไปได้ วัดไฟได้ตั้งแต่ 4-60V
รูปที่ 2 และ 3 เป็นการต่อแบบปกติ สี่สาย วัดไฟได้ตั้งแต่ 4-60V
รูปที่ 4 เป็นการต่อแยกแหล่งจ่าย วัดไฟได้ตั้งแต่ 0-60V